Allergy Thai Health Facts

  เข้าหน้าร้อนแล้ว สาว ๆ หลายคนก็คงจะเตรียมชุดว่ายน้ำไปอวดโฉมกันหลายคนเลยทีเดียว แต่คงไม่ดีแน่ หากว่าเราตัดเล็มขนน้องสาวไม่ดีพอ ทำให้หลายคนตัดสินใจที่จะไปทำเลเซอร์บราซิลเลี่ยน วันนี้เราเลยนำ 4 เรื่องควรรู้ก่อนที่เราจะไปทำมาฝากกัน จะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย    เลเซอร์บราซิลเลี่ยน ไม่ใช่แค่กำจัดขนบริเวณน้องสาว  การทำเลเซอร์บราซิลเลี่ยน ไม่ใช่แค่การกำจัดขนบริเวณด้านหน้าเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมบริเวณขนที่ขึ้นรอบ ๆ รูก้นด้านหลังด้วย ซึ่งจะช่วยทำให้ขนบริเวณดังกล่าวมีความเกลี้ยงเกลาน่ามองไม่น้อยเลยทีเดียว    ก่อนไปทำห้ามถอนหรือแว็กซ์ ใครที่ซื้อคอร์สเอาไว้แล้ว กำลังจะไปทำเลเซอร์บราซิลเลี่ยน ห้ามแว็กซ์ หรือถอนไปก่อน รวมถึงการสครับน้องสาว เพราะอาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองได้ ทางที่ดีควรปล่อยไปตามธรรมชาติ ก่อนที่จะไปทำจะดีกว่า    ต้องทำต่อเนื่องถึงจะเห็นผล  หลายคนคิดว่าไปทำครั้งเดียวแล้วจะเห็นผลเลย ที่จริงคือ ต้องไปทำอย่างน้อย 4-5 ครั้งกว่าจะเห็นผลชัดเจน และขึ้นอยู่กับสภาพขนของแต่ละบุคคลด้วยว่ามีความหนาหรือบางแค่ไหน  แน่นอนว่าบางคนอาจจะต้องทำมากกว่า 5 ครั้ง    เลเซอร์บราซิลเลี่ยนไม่เหมือนกับเลเซอร์บิกินี่ …

 ในทุกๆ การเติบโต เราย่อมต้องเจอกับเรื่องราวที่ดีและเลวปะปนกันไป บางคนมองว่ามันคือรสชาติของชีวิต บางคนมองว่าโลกนี้ช่างโหดร้ายเหลือเกิน ยิ่งถ้าคุณอยู่ในวัยที่กำลังเรียนรู้ชีวิต อย่างวัยทำงาน อาจต้องเจอกับอารมณ์หลากหลายด้าน ทั้งเจ้านายจู้จี้ เพื่อนร่วมงานขึ้เม้าท์ หรือใครก็ตามที่คุณคิดว่าพวกเขาเหล่านั้นกำลังแสร้งว่าเป็นเพื่อน แต่แท้จริงแล้วเป็นนางร้ายที่กำลังแอบนินทาคุณอยู่   เอาล่ะ ถ้าคุณกำลังหม่นหมองและมองว่าโลกนี้ช่างสีเทาเหลือเกิน เราอยากให้คุณเบรกตัวเองเอาไว้สักนิด แล้วมองมุมกลับให้เป็นเรื่องบวก เพราะในวัยที่คุณกำลังเติบโตและเรียนรู้ สิ่งเหล่านี้มักจะทำให้คุณแข็งแกร่งได้ในอนาคต แต่สิ่งสำคัญที่สุด คือคุณจะต้องมีจิตใจที่แข็งแกร่ง และต้องไม่คิดลบมากจนเกินไป คุณก็จะมีความสุขมากขึ้นได้ บอกเลย    แต่หากใคร ที่กำลังหา Way ในการปรับสมดุลความคิด แวะมาอ่านตรงนี้ให้จบ แล้วคุณจะรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้น หากเราหลับตาแล้วสูบหายใจลึกๆ แว๊บเดียว เดี๋ยวมันก็ผ่านไปแล้วนะเธอ   พวกนั้นจับกลุ่มเม้าท์เราอยู่ ทำไงดี?      หากใครที่อยู่ในสถาการณ์ที่ล้อมรอบด้วยหมู่สาวปากปลาร้า สิ่งแรกที่คุณจะต้องทำก็คือ การเข้าสู่โหมดจิตแข็ง ยิ่งถ้าหากคุณรู้ตัวว่าคุณอ่อนแอเหมือนนางเอกในละครยุคเก่าด้วยแล้ว เราขอให้คุณกลั้นน้ำตาเอาไว้ก่อน แล้วพยายามยิ้มสู้ให้ได้ …

เพราะในสังคมการทำงาน บางครั้งเราอาจต้องต่อสู้กับทั้งเพื่อนร่วมงานที่ Toxic จนน่าปวดหัว หรือเจ้านายที่สั่งงานให้อย่างไม่ยั้ง แม้กระทั่งกับลูกค้าที่แก้งานอย่างไร้สาเหตุ หากใครที่กำลังวนเวียนอยู่กับสิ่งเหล่านี้ และเริ่มท้อใจจนไม่อยากลุกออกจากที่นอนเพื่อไปทำงาน เรามาลองจัดลำดับความคิด ให้คิดบวกเข้าไว้ เพื่อให้ผ่านพ้นไปในแต่ละวันได้อย่างราบรื่น ที่สำคัญยังสามารถรับมือกับสิ่งรบกวนจิตใจเหล่านี้ได้อย่างแข็งแกร่งอีกด้วย  ปรับความคิดของตัวเอง ว่าจะไม่ยึดติดกับปัญหา    ถ้าคุณอยากทำงานให้มีความสุข จงคิดเสียว่า “แล้ววันนี้จะผ่านไป” เพราะสุดท้ายแล้ว หากปัญหาในที่ทำงานเกิดขึ้นกับคุณ และคุณสามารถแก้ปัญหาได้ในแต่ละวัน ถึงแม้จะยากเย็นไปบ้างแต่ขอให้คุณมีเพียงพลังบวก และท่องเอาไว้ว่าเดี๋ยวมันก็จบ เพียงแค่คุณทำงานที่อยู่ตรงหน้าให้ดีที่สุด รอเวลาอีกนิดเมื่อถึงเวลาเลิกงานคุณก็จะได้กลับไปนอนดู Netflix ที่บ้านแล้ว แต่หากว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดขึ้นมาจากเจ้านายของคุณเอง ที่เป็นปัญหาซ้ำซากวนเวียน อีกทั้งหากคุณได้ทำการพูดไปทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อให้เกิดการปรับตัวเข้าหากัน เพื่อทำให้การทำงานเกิดความราบรื่นมากที่สุด แต่ก็ยังไม่มีผลอะไรเกิดขึ้น ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม คุณอาจจะต้องมาชั่งใจแล้วว่า งานที่ตัวเองทำอยู่ทำให้คุณมีความสุขหรือไม่ ถ้าหากคิดแล้วคิดอีกว่า “ไม่เลย” แถมยังเครียดจนส่งผลต่อร่างกาย รวมถึงมองไม่เห็นหนทางในการแก้ไข ซึ่งถ้าหากเทียบกับความสามารถของคุณแล้วที่มีอย่างมหาศาล เราขอแนะนำว่าให้คุณพาตัวเองให้ออกมาจากตรงนั้น เพราะหากคุณฝืนไป อารมณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นก็จะสะสมและอาจส่งผลร้ายต่อคุณเองในอนาคต  …

  เพราะการใช้ชีวิตมันยาก ยิ่งถ้าเรื่องการเก็บเงินให้อยู่ด้วยแล้วยิ่งยากเข้าไปใหญ่ หากใครที่มีแผนสำหรับอนาคต ไม่ว่าจะอยากเก็บเงินไปเที่ยวหรืออยากจะทำธุรกิจ แต่เก็บเงินมาสักพักแต่ไม่เคยเก็บอยู่สักที หากใครอยากเก็บเงินให้อยู่ เรามีทริกเก็บเงินมาฝากกัน รับรองว่าหากทำเป็นประจำ มีเงินเก็บในบัญชีจนต้องตกใจเลยนะ  ต้องมีความตั้งใจจริงก่อนนะทุกคน   เอาล่ะ สำหรับใครที่อยากเก็บเงินให้อยู่ คงต้องถามตัวเองก่อนเลยว่า พร้อมจริงๆ ใช่ไหมสำหรับการเก็บเงินในครั้งนี้ เพราะถ้าคุณมาพร้อมกับความตั้งใจจริง บอกเลยว่าเงินเก็บเป็นก้อนๆ รออยู่ตรงหน้าแน่นอน แต่ถ้าหากคุณเพียงแค่มีใจที่ ‘อยาก’ จะเก็บเงินให้ได้แต่ไม่มีความตั้งใจจริง อาจเป็นเรื่องยากที่จะไปถึงจุดหมายที่คุณตั้งเอาไว้ แต่หากใครบอกว่า “ฉันพร้อมกับการเก็บเงินครั้งนี้แบบ 100%” เราขอบอกเลยว่าความฝันของคุณอยู่ไม่ไกลแน่นอน   ตั้งเป้าหมาย/รู้เป้าหมายว่าต้องการเก็บเงินไปทำอะไร    เพราะว่ากันว่า แรงผลักดันที่เข้มข้น จะช่วยให้คุณสามารถไปถึงจุดหมายได้สำเร็จในเร็ววัน เพราะฉะนั้นแล้ว คุณจะต้องรู้เป้าหมายของตัวเองก่อนว่า ต้องการเก็บเงินไปทำอะไร บางคนอยากจะไปเที่ยวรอบโลกกับแฟน บางคนอยากเก็บเงินสักก้อนเพื่อไปประกอบธุรกิจอย่างที่ตัวเองฝันเอาไว้ หรือบางคนอยากเก็บเงินเพื่อซื้อของที่ตัวเองชอบ ซึ่งถ้าหากคุณมีเป้าหมายที่ชัดเจนแล้ว แถมมาพร้อมกับความมุ่งมั่น คราวนี้ก็เริ่มเก็บเงินกันได้เลย    เก็บเงินเป็นประจำจนเป็นนิสัย  …

  เรื่องความเครียดไม่เข้าใครออกใคร ยิ่งในยุคปัจจุบันนอกจากเรื่องการทำงานที่บางครั้งเรียกว่าเครียดแทบตายแล้ว พอเงยหน้ามาดูข่าวสถานการณ์บ้านเมืองยิ่งอาจเครียดไปกันใหญ่ แต่อย่าปล่อยให้ใจต้องหงุดหงิดจนความเครียดสะสมแบบเรื้อรัง เพราะอาจทำให้หน้าเหี่ยวและดูแก่เร็วได้ เพราะเรามีเทคนิคคลายความเครียดมาฝากกัน รับรองได้เลยว่าหากใครลองนำไปตาม เพียงแค่นับ หนึ่ง สอง สาม หายเครียดได้เลย!  โยคะซิจ๊ะ รออะไร!    นอกจากการเล่นโยคะจะขึ้นชื่อว่าสามารถช่วยบำบัดร่างกายแล้ว เครื่องของอารมณ์และจิตใจ โยคะก็ช่วยเราเช่นกัน สำหรับใครที่รู้สึกว่าช่วงนี้มีความเครียดหนัก การลองหาเวลามาปรับสมดุลร่างกายและจิตใจด้วยการเล่นโยคะ จะช่วยให้คุณได้ลืมความเครียดไปชั่วขณะ ยิ่งถ้าเล่นโยคะเป็นประจำยังจะช่วยปรับในเรื่องความสมดุลของระบบประสาท ช่วยทำให้เราผ่อนคลาย ช่วยให้จิตใจสงบมากขึ้น ยิ่งถ้าใครที่เครียดมากจนนอนไม่หลับ โยคะยังจะช่วยให้อาการกระสับกระส่ายและความกังวลค่อยๆ หายไป ทำให้หลับได้ง่ายขึ้น ที่สำคัญยังจะช่วยให้คุณมีสมาธิกับการทำงานได้มากขึ้นอีกด้วยนะ ใครอยากรู้ว่าดีจริงหรือเปล่า ต้องลองไปเล่นโยคะกันดู    ชอบในสิ่งที่ทำ ทำในสิ่งที่ชอบ    อีกหนึ่งวิธีที่คุณสามารถทำได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังจะช่วยให้จิตใจของคุณได้ปลดปล่อย นั่นก็คือการเลือกทำกิจกรรมที่ตัวเองมีความสุขมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ฟังเพลง หรือทำขนมต่างๆ เพราะเมื่อคุณได้จดจ่ออยู่กับสิ่งที่ชอบแล้ว ความเครียดที่คุณมีก็จะหายไป โดยคุณอาจสร้างกฎประจำตัวของตัวเองสักหน่อยว่า …

ปัญหาผิวหน้า เป็นปัญหาอันดับหนึ่งที่กวนใจสาว ๆ หลาย ๆ คน ซึ่งเมื่อวันเวลาได้ผ่านล่วงไป ตัวเลขอายุที่เพิ่มมากขึ้น นอกจากสุขภาพร่างกายที่เริ่มถอยแล้ว สุขภาพผิวหน้าก็เริ่มถอยเหมือนกัน ดังนั้นเมื่อสาว ๆ วัยทำงานที่เริ่มก้าวเข้าสู่เลข 3 การดูแลสุขภาพผิวหน้าจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ควรให้ความใส่ใจเป็นอย่างมาก มาเตรียมจด How to ดูแลผิวหน้าให้ขาวกระจ่างใส ผิวบลิ๊งค์เหมือนผิวเด็ก ! ที่สามารถทำตามได้ทุกวัน การนอนที่มีคุณภาพ   การนอนเป็นสิ่งสำคัญที่ในวงจรชีวิตประจำวัน เชื่อว่าเมื่อก้าวเข้าสู่วัยทำงาน แน่นอนว่าปัญหาต่าง ๆ เริ่มตามเข้ามาในชีวิตมากมาย ซึ่งไม่เพียงส่งผลต่อสุขภาพเท่านั้น ยังส่งผลถึงความเครียดทำให้หลายคนนอนไม่หลับ รวมถึงมีเวลาพักผ่อนน้อย ดังนั้นควรจัดสรรเวลาชีวิตใหม่ เพิ่มเวลาการพักผ่อนให้มีคุณ๓าพมากขึ้น แนะนำร่างกายควรได้รับการนอนวันละ 6-7 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย นอกจากจะช่วยฟื้นฟูร่างกายแล้ว เวลานอนหลับเป็นช่วงที่เซลล์ผิวหน้าได้รับการซ่อมแซมเพื่อฟื้นฟูที่ดีอีกด้วย   การกินที่มีประโยชน์ การกินสำหรับคนวัยทำงานในบางคก็มีตัวเลือกไม่มากนัก หรือบางคนกลับมีมากจนเลือกไม่ถูก ซึ่งอาหารเหล่านี้จะเข้าสู่ร่างกายและจะส่งผลดีหรือร้ายก็อยู่ที่ประเภทของอาหารที่กินลงไป ดังนั้นเราควรเลือกกินให้มากขึ้น …